วาเลนไทน์ 2567 – รู้ทัน "โจรหลอกให้รัก" ภัยออนไลน์ที่คนมักตกเป็นเหยื่อ
เปิดพิกัด 14 ที่เที่ยววาเลนไทน์ เอาใจคนโสดให้หายเหงา
รวมให้แล้ว วาเลนไทน์ทั่วโลก จัดแบบไหน มีวัฒนธรรมการฉลองอย่างไร
รู้ทัน “โจรหลอกให้รัก” เช็กกลโกง-วิธีการรับมือ อาชญากรรมออนไลน์ที่คนไทยมักตกเป็นเหยื่อ เนื่องในวันแห่งความรัก “วาเลนไทน์ 2567”
โดยเฉพาะมิจฉาชีพที่แอบแฝงในโลกออนไลน์ ที่มักจะใช้ความรักหรือความอ่อนไหวของเป้าหมายมาหลอกลวง เพื่อหวังต่อทรัพย์บ้าง หรือในบางครั้งก็นำไปสู่การทำร้ายร่างกาย
“คดีหลอกให้รัก” สร้างความเสียหายมากสุด
น่าทึ่งว่า จากการรายงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (ศูนย์ AOC 1441) เมื่อวันที่ 1-5 มกราคม 2567
พบว่า หลังปีใหม่มาเพียงห้าวันแรก 5 รูปแบบคดียอดนิยมจากแก๊งมิจฉาชีพ ที่ทำประชาชนชาวไทยสูญเงินรวมมากกว่า 28 ล้านบาท
“คดีหลอกให้รัก” เป็นกลลวงของมิจฉาชีพที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนมากที่สุด เป็นอันดับที่ 1 โดยมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท
ขณะที่ในช่วงเวลาต่อมา 22-26 มกราคม 2567 แม้คดีหลอกให้รักจะไม่ติดโผ 5 อันดับคดียอดนิยมจากมิจฉาชีพก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่กลับขึ้นมาอีก
เพราะหากดูจากภาพรวมในปี 2566 คดีหลอกให้รักก็มีสถิติการเกิดขึ้น ติดอันดับขึ้นๆ ลงๆ สลับกับการหลอกลงทุนหรือการหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์กันไป
ซึ่งตลอดทั้งปี 2566 ตำรวจสอบสวนกลางก็ได้จัดให้ “คดีหลอกให้รัก” ถือเป็นตัวตึงกลโกงมุกเด็ดประจำปีด้วย
และหากย้อนสถิติไปเมื่อเดือนมกราคม 2566 เพียงเดือนเดียว ก็เคยทำสถิติมีคดีมากถึง 403 คดี สร้างความเสียหายไปกว่า 190 ล้านบาทแล้ว
การรู้เท่าทันภัยของการหลอกให้รักจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงวันวาเลนไทน์นี้ ที่อาจถูกหยิบยกเอาชื่อ “วันแห่งความรัก” นำไปใช้หาผลประโยชน์ต่อได้
วาเลนไทน์ 2567 เปิดพิกัดไหว้ขอพร "พระแม่ลักษมี" พร้อมวิธีมูยังไงให้ได้แฟน
เปิดความหมาย "ดอกกุหลาบ" และ 40 ความหมายดอกไม้รับ "วันวาเลนไทน์"
รู้จัก “Romance Scams”
การหลอกให้รักในที่นี้ ในทางทฤษฎีจะเรียกว่า “Romance Scams”
Romance Scamsคือการใช้เทคนิคทางจิตวิทยาพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่นผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างความเชื่อใจระหว่างบุคคล แล้วทำการหลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งจะมีพฤติกรรมสร้างความเสียหายดังนี้
- หลอกให้รักแล้วโอนเงิน (Romance scam) ด้วยการสร้างเรื่องราวต่างๆ ที่ให้ความหวังหรือน่าเห็นใจ
- หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Hybrid scam) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ปลอมด้วยการโอนเงินหรือลงทุนในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล
- หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมท (Remote access scam)ควบคุมสมาร์ทโฟนและทำการดูดเงินในบัญชี
- หลอกให้รักแล้วแบล็คเมล์ (Sextortion) ขู่กรรโชกทางเพศ ด้วยการชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอมาขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่นๆ
3 ข้อสังเกตโจรหลอกให้รัก
ไม่อยากตกเป็นเหยื่อโจรลวงรัก แนะนำว่าให้ลองสังเกต 3 ข้อดังนี้
- ใช้รูปโปรไฟล์ของคนหน้าตาดี
คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
มิจฉาชีพมักจะสร้างตัวตนปลอม โดยใช้รูปโปรไฟล์ที่หน้าดึงดูด คุยเก่งอัธยาศัยดี มีประวัติที่น่าสนใจ เราจึงควรตรวจสอบ ยืนยันตัวบุคคลที่เราคุยด้วยทางแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ชัดเจนในหลากหลายช่องทาง ระลึกไว้เสมอว่า ไฟล์เอกสารยืนยันตัวตนที่ส่งมา หรือเว็บไซต์บริษัทหรือหน่วยงานที่ปรากฏชื่อคนที่เราคุยด้วยอาจถูกปลอมแปลงขึ้นมาอีกที
ทั้งนี้หากมีการขอให้เปลี่ยนช่องทางในการคุย โดยการแนะนำให้ดาว์นโหลดแอปพลิเคชัน หรือกดลิงค์ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน ห้ามกดเด็ดขาด เพราะอาจเป็นแอปรีโมทที่สามารถดูดเงินให้บัญชีของเราได้
- หลอกขายฝัน
มิจฉาชีพมักจะแสร้งว่ามีความรักความปรารถนาดีให้ และทำการแนะนำให้ทำการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต หรือหลอกว่าจะมาใช้ชีวิตหรืออนาคตด้วยกัน
ดังนั้นหากคนที่กำลังคุยทางออนไลน์มีการชักชวนให้ทำการลงทุนผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ หรือขอความช่วยเหลือด้านการเงิน เช่น ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล และค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าภาษีของมีค่าของขวัญที่ส่งมาให้ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพ
- ลวงเอาข้อมูลส่วนตัว
มิจฉาชีพมักจะคุยและหลอกล่อให้เราเผยข้อมูลส่วนตัว หรือส่งเอกสารสำคัญให้ เพื่อนำไปใช้ในทางที่ผิดและสร้างความเสียหาย
นอกจากนี้ ประชาชนต้องระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวทางสื่อสังคมออนไลน์ การเช็คอิน การเปิดเผยกิจวัตรประจำวันที่มากเกินไป และไม่ส่งรูปภาพ คลิปวีดีโอ หรือการวีดีโอคอล ในลักษณะโป๊เปลือย ที่อาจนำไปสู่การแบลกเมล์เรียกค่าไถ่ รวมถึงระมัดระวังการนัดพบกับคนคุยออนไลน์ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน อยู่เสมอ
5 อุบายหลอกลวงเหยื่อ
นอกจากจะสามารถเช็กพฤติกรรมของเหล่ามิจฉาชีพข้างต้นแล้ว ยังมีอีก 5 อุบายที่พวกเขามักใช้เพื่อหลอกลวงเหยื่อ คือ
- หลอกว่าจะมาแต่งงานที่เมืองไทย ส่งทรัพย์สินมาให้แต่ต้องชำระค่าภาษีก่อน
- หลอกว่าตัวเองหรือญาติป่วยแต่ประกันยังเบิกจ่ายไม่ได้
- หลอกว่าได้รับมรดกเป็นเงินมหาศาลแต่ต้องชำระภาษี
- หลอกว่าส่งสิ่งของราคาแพงมาให้แต่ติดอยู่ที่ด่านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน
- หลอกว่าเป็นนักธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยและต้องการให้ร่วมทุนด้วย
หากใครกำลังเจอแบบนี้อยู่ ให้ตั้งสมมติฐานเอาไว้ก่อนว่าเขาอาจเป็นมิจฉาชีพ
หากตกเป็นเหยื่อต้องทำอย่างไร
หากรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อแล้ว ให้เก็บหลักฐานการโอนเงิน หรือภาพที่พูดคุยกับคนร้ายผ่านช่องทางต่างๆ เอาไว้ รวมถึงเก็บชื่อบัญชี ภาพโปรไฟล์ และข้อมูลคนร้ายไว้ให้มากที่สุด จากนั้นนำไปแจ้งความกับสถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป
โดยมีคำแนะนำเพิ่มเติมจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดังนี้
- ให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารส่วนตัว และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- กรณีที่เสียหายต่อชื่อเสียง ให้เตรียมหลักฐานที่พบว่ามีการกระทำความผิด เช่น หน้าจอ เว็บไซต์ หน้าโปรแกรมไลน์ โปรแกรมเฟซบุ๊ก หรือหน้าเพจที่พบการกระทำความผิด ปรินซ์ออกจากระบบแล้วนำไปด้วย
- กรณีที่เสียหายต่อทรัพย์ ให้เตรียมหลักฐานที่พบการกระทำความผิด ปรินซ์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ และนำหลักฐานการโอนเงินต่างๆ ไปด้วย
- ให้ไปแจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ สถานีตำรวจนครบาล หรือสถานีตำรวจภูธร
ทั้งหมดนี้ พีพีทีวี หวังว่าเราจะสามารถตอบแทนความรัก และความห่วงใย ของแฟนพีพีทีวีได้ ทุกคนจะได้รู้เท่าทัน “คดีหลอกให้รัก” ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และมีความสุขในวันวาเลนไทน์นี้
9 ก.พ. ไหว้ตรุษจีน 2567 จุดธูปกี่ดอก เวลาไหนดี พร้อมทิศมงคลเสริมเฮง
สภาพอากาศวันนี้ ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น กทม. – 8 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง
พบ"น้องพร"มีโทรศัพท์อีกเครื่องใช้ติดต่อ"ช่างกิต"